5 อันดับ อาหารวิตามินดีสูง

0
98

5 อันดับ อาหารวิตามินดีสูง รู้แล้วต้องกิน ลดความเสี่ยงการขาดวิตามิน

5 อันดับ อาหารวิตามินดีสูง

5 อันดับ อาหารวิตามินดีสูง มีอะไรบ้าง วิตามินดี มีประโยชน์เยอะแยะมากมายกว่าที่เราคิด แต่ใครหลายๆคนอาจจะมองข้าม วันนี้เราจะมาแนะนำทุกท่านให้รู้จักกับประโยชน์ของ Vitamin D และจะมาบอกให้ทราบถึงแหล่ง อาหารวิตามินดีสูง ว่ามีที่ไหนบ้าง สามารถหารับประทานกันได้ง่ายๆแน่นอน กับ 5 แหล่งอาหารที่มีวิตามินดี  

อาหารวิตามินดีสูง วิตามินดีเป็นวิตามินที่สำคัญมากๆต่อร่างกายของเรา โดยท่านสามารถรับได้จากแสงแดดอ่อนๆตามธรรมชาติยามเช้าหรือเย็น แต่อย่างไรก็ตามเท่านั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อ ปริมาณวิตามินดีที่ควรจะได้รับต่อวัน ดังนั้นแล้วท่านควรที่จะเลือกรับประทาน อาหารวิตามินดีสูง เพื่อที่ท่านจะได้รับวิตามินดีเพิ่มมากขึ้น

วันนี้เราจะมานำเสนอเกี่ยวกับ อาหารที่มีวิตามินดีสูง ที่ท่านไม่ควรพลาด เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของตัวท่านเอง เพราะการขาดวิตามินดีอาจจะส่งผลเสียต่อหลายๆเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าขาดวิตามินดี อาจจะทไให้ท่านเป็นโรคกระดูกบาง หรือ กระดูกพรุนเป็นต้น ดังนั้นแล้ว เราทุกคนควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี กันด้วย

วิตามินดี มีประโยชน์อย่างไร ทำไมเราต้องรับประทาน Vitamin D ? 

ประโยชน์วิตามินดี มีเยอะแยะมากมาย ซึ่งนอกจาวิตามินดีจะมีอยู่ตามแสงแดดเช้าเย็นที่เราจะได้รับจากธรรมชาติแล้ว วิตามินดียังสามารถหาทานได้ตามอาหารทั่วไปอีกด้วย ประโยชน์ของวิตามินดี จะเข้ามาช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเสริมสร้างกระดูกของเราให้แข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของการควบคุมความดันโลหิต

วิตามิน d ประโยชน์ มีมากมายกว่าที่ท่านคิดแน่นอน การตรวจว่าวิตามินดีที่เราได้รับนั้นเพียงพอหรือไม่ อาจจะต้องตรวจสอบตามโปรแกรมสุขภาพเท่านั้น เพื่อให้ทางทีมแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเราได้มีความเสี่ยงต่อโรคอะไรหรือไม่ เช่น โรคกระดูกพรุน โรคซึมเศร้า หรือโรคอื่นๆเป็นต้น สำหรับประโยชน์ของวิตามินดี จะมีดังต่อไปนี้

  • สามารถช่วยแก้อาหารซึมเศร้า ลดความเครียด วิตกกังวล
  • ช่วยให้การนอนหลับของท่านดีขึ้น กระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกาย
  • ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากขึ้น ป้องกันกระดูกบาง
  • สามารถลดความเสี่ยงในเรื่องของโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิต

ร่างกายของเราต้องการ Vitamin D มากแค่ไหน? ควรได้รับวันละเท่าไหร่

สำหรับคำถามที่ว่า อาหาร ที่ มีวิตามิน d สูง เราควรรับประทานวิตามินดีมากแค่ไหน โดยแต่ละช่วงอายุ แต่ละบุคคลอาจจะต้องได้รับวิตามินดีแตกต่างกันไป ก่อนที่เราจะไปทราบถึง วิตามิน d แหล่ง อาหาร ที่สามารถรับวิตามินดีได้ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า ปริมาณที่เราควรรับประทานวิตามินดีต่อวัน มีเท่าไหร่บ้าง ในแต่ละช่วงอายุ

  • เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปี ร่างกายควรได้รับ Vitamin D วันละ 400 IU
  • บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 1-70 ปี ควรได้รับ Vitamin D วันละ 600 IU
  • บุคคลทั่วไปที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับ Vitamin D วันละ 800 IU 

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เพื่อให้เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ประโยชน์วิตามินดี มีเยอะแยะมากมายกว่าที่ท่านคิดแน่นอน โดยวิตามินมีอยู่ 2 ประเภท Vitamin D 2  ทีสามารถหารับประทานได้จากพืชเท่านั้น และ Vitamin D  3 เป็นวิตามินดีที่ได้เมื่อโดนแสงแดดและจากอาหารทั่วๆไปนั่นเอง

แหล่งอาหาร วิตามินดี วิตามินดีได้จากอะไรบ้าง วิตามิน d แหล่งที่พบ ?

ถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะสามารถได้รับวิตามินดีจากแสงแดด แต่ที่แพทย์พบส่วนมาก หลายๆคนก็ยังคงได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากเรามักจะหลบแสงแดด ทำให้ผิวหนังไม่ได้รับอย่างทั่วถึง ดังนั้นแล้วเราควรหา  แหล่งอาหาร วิตามินดี ที่หารับประทานได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ร่างกายเราได้วิตามิน

1.แซลมอน

แซลมอน

แซลมอน (salmon) เป็นอาหารที่มีประโยชน์สำหรับสุขภาพมากมาย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกหนึ่งประโยชน์ของแซลมอนคือมีปริมาณมาตรฐานของวิตามิน D ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับสุขภาพของกระดูกและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

วิตามินดีได้จากอะไรบ้าง ปลาแซลมอน มีประโยชน์เยอะมากๆมีโปรตีนสูง รวมทั้งยังมีวิตามินดีที่สูงอีกด้วย  ถ้าหากรับประทานแซลมอนธรรมชาติ 100 กรัม ท่านจะได้รับวิตามินดีมากถึง 124% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากเลือกรับประทานแซลมอนจากฟาร์ม จะมีวิตามินดีอยู่ที่ 32% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

แซลมอนเป็นแหล่งที่ดีของวิตามิน D ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่มักนิยมในอาหารคือแซลมอนแอตแลนติก (Atlantic salmon) และ (Pink salmon) โดยปริมาณวิตามิน D ในแซลมอนจะขึ้นอยู่กับปริมาณแสงแดดที่ได้รับขณะการเจริญเติบโตและการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อม แต่มักพบในรูปของวิตามิน D3 (cholecalciferol)

การรับประทานแซลมอนเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มปริมาณวิตามิน D ในร่างกาย คุณสามารถรับประทานแซลมอนในรูปแบบอาหารหลากหลาย เช่น ย่าง, ต้ม, หรือทอด อย่างไรก็ตาม, ควรระวังปริมาณไขมันที่รวมในเมนู เพราะแซลมอนมีปริมาณไขมันสูง

2.ไข่แดง

ไข่แดง

ไข่แดง (หรือไข่ไก่แดง) เป็นอาหารที่นิยมและมีความคุ้มค่าในเรื่องของโภชนาการและประโยชน์สำหรับสุขภาพ ไข่แดงเต็มไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ โดยเฉพาะโปรตีนและวิตามิน แม้ว่ามีความสัมพันธ์กับการเพิ่มคอเลสเตอรอลในเลือดแต่ความจริงแล้วไข่แดงนั้นมีประโยชน์สำหรับสุขภาพเมื่อรับประทานอย่างเหมาะสม

สำหรับใครที่ไมชอบรับประทาน อาหาร จำพวกปลา สามารถเลือกระบประทานไข่แดง เพื่อเพิ่มวิตามินดีให้แก่ร่างกายของเราได้เลย วิตามิน d แหล่ง ที่พบ สามารถหารับประทานได้ง่ายจริงๆ แต่ขอแนะนำว่าให้รับประทานไข่ไก่ที่ได้จากฟาร์มไก่ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ เพราะวิตามินดีมากกว่าไข่ไก่ที่เลี้ยงตามฟาร์มจำนวน 4 เท่าเลยทีเดียว

3.เห็ด

เห็ด

มาถึง แหล่งของวิตามินดี ที่ได้รับจากพืช กันบ้าง เห็ดจะอุดมไปด้วยวิตามินดี2 โดยจะแตกต่างจากวิตามินที่ได้จากสัตว์ซึ่งเป็นวิตามินดี3 อย่างไรก็ตามเราก็คงจะแนะนำให้ท่านรับประทานเห็ด Style ที่ปลูกตามธรรมชาติ มากกว่าที่ปลูกตามฟาร์ม เพราะเห็ดตามธรรมชาติจะได้รับ UV ดีกว่าเห็ดในฟาร์มที่ปลูกขึ้นเพื่อทำการค้า นั่นเอง

เห็ดมีปริมาณต่ำของแคลอรี่และไขมัน ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักตัวเอง นอกจากนี้ เห็ดมีใยอาหารที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มและลดความหิว เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น วิตามิน D, วิตามิน B, แม็กนีเซียม, โพแทสเซียม, และเฟอร์รัส วิตามิน D ช่วยในการรักษากระดูกแข็งแรงและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

4.ปลาซาร์ดีน

ปลาซาร์ดีน

แหล่งอาหารของวิตามินดี หารับประทานได้ง่าย มีในปลากระป๋อง เห็นไหมว่าเราสามารถหารับประทานได้ทั่วไป  ซึ่งในปลาซาร์ดีนประมาณ 3.8 ออนซ์ จะอุดมไปด้วยวิตามินดีประมาณ 22% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน นอกจากที่มีวิตามินดีเยอะแล้ว ยังอุดมไปด้วยโปรตีนเยอะมากๆอีกด้วย สามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตชั้นนำทั่วไป

ปลาซาร์ดีนมีปริมาณโปรตีนสูงและมีทุกกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย โปรตีนช่วยในการสร้างและซ่อมแซ่มเนื้อเยื่อ และสร้างฮอร์โมนและเอนไซม์ ปลาซาร์ดีนมีปริมาณสูงของกรดไขมัน omega-3 fatty acids ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจและสมอง กรดไขมันช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเสมือนยาสำหรับสุขภาพ

5.ปลาเฮอร์ริ่ง

ปลาเฮอร์ริ่ง

ปลาเฮอร์ริ่ง (Herring) เป็นปลาที่มีความนิยมในอาหารของหลายชุมชน และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอกจากนี้ เป็นแหล่งของกรดไขมันปลา (omega-3 fatty acids) ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ปลาเฮอร์ริ่งเป็นปลาที่อุมไปด้วยวิตามินดี แหล่งอาหาร วิตามินดี ชั้นดี เมื่อรับประทาน 100 กรัม จะมีวิตามินดีประมาณ 27% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน สำหรับใครที่อยากเพิ่มวิตามินดีให้แก่ร่างกายสามารถทานปลานี้ได้เลยมีวิตามินดีเยอะ ไม่แพ้กับวุัตถุดิบอื่นๆ สามารถหารับประทานได้ไม่ยาก มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกที่แข็งแรง

สรุป สรรพคุณ วิตามิน ดี มีดีกว่าที่คิด หาทานได้ง่าย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของวิตามินดี มีเยอะแยะมากมายเลยจริงๆ การได้รับวิตามินดีที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะช่วยร่ายกายในเรื่องของ การนอนหลับ การรับประทานวิตามินดีที่พอดี จะช่วยให้เราหลับได้ดีขึ้นอีกทั้ง ประโยชน์วิตามินดี ยังมีส่วนช่วยในเรื่องของการให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีมากขึ้น ป้องกันกระดูกบาง อีกด้วย

วิตามินดีสำหรับคนทั่วไปที่ควรได้รับประทานต่อวันคือ 600 IU สำหรับท่านที่มีอายุไม่เกิน 70 ปี และ สำหรับท่านไหนที่มีอายุมากกว่า 70 ปี ควรรับประทานวันละ 800 IU จากที่เรา Kwaamsuk ได้นำเสนอไป สรรพคุณ วิตามิน ดี มีเยอะแยะมากมาย อีกทั้งยังสามารถหารับประทานได้ง่ายๆตามอาหารทั่วไป ดังนั้นควรเลือกรับประทานให้พอดีต่อร่างกาย

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ : 5 อันดับ ผลไม้วิตามินบีสูง

อ้างอิงโดย : Trueid

บทความก่อนหน้านี้5 อันดับ ผลไม้วิตามินบีสูง
บทความถัดไป10 ทักษะสำคัญ ในการสมัครงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่