ประวัติเทศกาล วันคริสต์มาส Christmas Day 25 ธันวาคม วันแห่งความสุข
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังสนใจ ประวัติเทศกาล วันคริสต์มาส และ อยากศึกษาเกี่ยวกับความเป็นมา เป็นไป ของเทศกาลที่ดูแสนอบอุ่น และ ชวนให้หวนคิดถึงอยู่เสมอ เป็นเสมือนวันแห่งครอบครัว ที่เราได้มาพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่ร่วมกัน และใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกัน ห้ามพลาด!
เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ทั้งโลกรอคอยอย่างเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน, ครอบครัว, หรือคนทั่วไปที่มาชุมนุมรวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองความสุขและความรัก สำหรับเราทุกคน วันคริสต์มาสเป็นเวลาที่เรามาถึงด้วยกันเพื่อแสดงความรักและความเห็นใจให้กับผู้ที่เรารัก วันนี้เราจะไปสำรวจถึงต้นกำเนิดของเทศกาลนี้และความหมายที่มันเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์และความรักของเรา
บนโลกของเรานั้น มีเทศกาลสำคัญมากมาย นั้นรวมถึง เทศกาลวันคริสต์มาส อีกด้วย ถือเป็นเทศกาลที่สนุกสนาน และสวยงามเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่ ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ แต่ก็ยังมีคนไทยหลายคนที่นับถือศาสนาคริสต์ และ ชื่นชอบเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย
ประวัติเทศกาล วันคริสต์มาส ซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ ทุกสิ่งเกี่ยวกับเทศกาลนี้
คริสต์มาส หรือ Christmas มาจากคำว่า Christes Maesse ซึ่งเป็นคำภาษาอังกฤษโบราณ มีความหมายว่า “บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า” เพราะการร่วมพิธีมิสซาถือเป็นเป็นประเพณีที่สำคัญที่สุดของชาวคริสต์ พบครั้งแรกในเอกสารโบราณภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038
เทศกาลคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกๆปี ซึ่งวันนี้ก็เป็น วันประสูติของพระเยซู ซึ่งเป็นศาสดาของศาสนาคริสต์ พระองค์ประสูติที่เมืองเบธเลเฮม เติบโตที่เมืองนาซาเรท ตามหลักฐานในคัมภีร์ปรากฏว่าพระองค์ประสูติในสมัยจักรพรรดิซีซาร์ ออกุส ตุส แห่งจักรวรรดิโรมัน โดยผู้ให้กำเนิดพระองค์คือ โยเซฟและมารีย์
เทศกาลคริสต์มาส เลยเหมือนเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองวั นประสูติของพระเยซู ผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลก ถือเป็นวันฉลองที่มีความสำคัญ และ มีความหมายเป็นอย่างมาก เหมือนกับเป็นการฉลองถึงความรัก ที่พระเจ้ามีต่อมนุษย์ โดยการส่งบุตรชาย นั่นคือ “พระเยซู” ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยไถ่บาปและช่วยให้รอดพ้นจากการทำความชั่ว
วันคริสต์มาส ซึ่งเป็นเทศกาลที่สำคัญอย่างมากของศาสนาคริสต์ ซึ่งได้ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ยุคกลางศตวรรษที่ 4 หรือ 5 คริสต์ศตวรรษ เป้นประวัติที่ค่อนข้างยาวนานมากๆ ซึ่งวันคริสต์มาส เป็นวันที่เฉลิมฉลองวันเกิดพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นศรัทธาของชาวคริสต์ศาสนาคาทอลิก และ ชาวศาสนาคริสต์อื่น ๆ ด้วย ที่ถือคริสต์เป็นเทวดา และ ผู้ช่วยในการฟื้นฟูมนุษยชาติ นั่นเอง
ซึ่งเทศกาลนี้ เป็นเวลาที่ชาวคริสตจักรในทั่วโลก ได้เข้ามาร่วมกันทำกิจกรรม ส่งเสริมความสันติสุข และ ความรักให้กับผู้คนมากมายรอบตัวเรา ซึ่งประกอบไปด้วยพิธีการ และ กิจกรรมต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และ วัฒนธรรม แต่อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ และ วัฒนธรรมก็ได้มีการจัดกิจกรรมการแข่งขันร้องเพลงคริสต์มาส การให้ซานต้ามาแจกของขวัญแก่เด็กในยามค่ำคืน และ การตกแต่งต้นคริสต์มาส อีกด้วย
นอกจากนี้ ในพิธีของศาสนาในวันคริสต์มาส คริสตจักรจั ดทำการบูชาพระเยซู โดยที่มีการนำเสาองค์แรก ที่นำมาสู่โรงเรียนคริสต์ศาสนา การเล่าเรื่องคริสต์มาส และ บางทีก็จะมีการแสดงละครที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาส
6 องค์ประกอบสำคัญในงาน วันคริสต์มาสอีฟ หากจะจัดให้สมบูรณ์แบบ
1.ต้นสนคริสต์มาส
ต้นคริสต์มาสก็คือ ต้นสนที่นำมาประดับตกแต่ง ไปด้วยดวงไฟหลากหลายสีสัน อุปกรณ์ตกแต่งมากมาย เพื่อเพิ่มแสงสว่างและ ความสวยงาม ให้กับต้นคริสต์มาส
2.ซานตาคลอส
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในวันเทศกาลคริสต์มาส หากนึกถึงเทศกาลนี้ ก็ต้องนึกถึง ซานตาคลอส ซึ่งเด็กๆหลายคน ต้องชื่นชอบเป็นอย่างมากแน่นอน เพราะซานตาคลอส มักจะให้ของขวัญกับเด็กดี แม้ซานตาคลอสจะเป็นเพียงแค่ตำนานในวันคริสต์มาส แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ ที่รวมเอาวิญญาณ และ ความหมายของคริสต์มาสเอาไว้ เป็นอย่างมาก
3.ถุงเท้า
ถุงเท้า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่หลายๆคน มักเอาไปประดับตกแต่ง ในวันคริสต์มาส เพื่อรอของขวัญเข้ามาอยู่ในถุงเท้าของตัวเอง ที่แขวนเอาไว้ ที่มาของถุงเท้าก็มาจาก นักบุญนิโคลาส ซึ่งจริงๆแล้วเขาเป็นซานตาคลอสคนแรก ที่ได้ปีนขึ้นไปบนปล่องไฟของเด็กสาวยากจนคนหนึ่ง เขาโยนถุงเหรียญลงมา และ มันกลับตกลงไปในถุงเท้าที่ถือนั้นตากไว้พอดี และ นั่นก็ถือเป็นจุด เริ่มต้นของการแขวนถุงเท้า เพื่อรอรับของขวัญจากซานตาคลอส
4.ต้นฮอลลี่
หลายๆ คนคงเคยพบต้นฮอลลี่ จากเทศกาลในวันคริสต์มาสไม่มากก็น้อย ถือว่าเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่ง ของวันคริสต์มาสเลย มีความเชื่อว่า สีเขียว ของต้นฮอลลี่มีความหมายว่า การมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์ โดยผลสีแดงของต้นฮอลลี่นั้นมีความหมายว่า หยดเลือดของพระเยซูที่ไหลลงไม้กางเขน เปรียบเหมือนกับความรักที่มีต่อพระเจ้า
5.ดอกไม้คริสต์มาส
ดอกไม้คริสต์มาส หรือ Poinsettia มีเรื่องมากจากเด็กสาวยากจนคนหนึ่ง ที่ต้องการหาของขวัญไปมอบให้กับพระแม่มารี แต่เนื่องจากเธอไม่มีสิ่งของใดๆ จึงเดินไปตัวเปล่า และ ในระหว่างเดินทางเธอได้พบเจอกับนางฟ้า ซึ่งให้เมล็ดพืชกับเธอไว้ และ เก็บมันไว้ให้ดี ต่อมาเมล็ดพืชนั้นกลับเติบโต เป็นดอกไม้สีเลือดหมูสด หรือ นั่นก็คือ Poinsettia และ นั่นทำให้ดอกไม้คริสต์มาส กลายมาเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่ง ในวันคริสต์มาส
6.สีประจำวันคริสต์มาส
- สีแดง
สีแดง แทนสีของผลฮอลลี่ และ ซานตาคลอส เป็นสีในเดือนธันวาคม แทนการตื่นเต้น และ ความโอบอ้อมอารีตามศาสนา
- สีเขียว
สีเขียว แทนสีของต้นคริสต์มาส เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ แทนความอ่อนเยาว์ และ ความหวังที่จะมีชีวิตเป็นนิรันดร์
- สีขาว
สีขาว แทนสีของหิมะ เป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และความรุ่งเรือง
- สีทอง
สีทอง แทนสีของเทียนและดวงดาวบนยอดต้นคริสต์มาส เป็นสัญลักษณ์แห่งแสงอาทิตย์ และ ความสว่างไสว
วันคริสต์มาสไม่ได้เป็นแค่เทศกาลศาสนา แต่กลายเป็นเทศกาลที่ส่งเสริมความรัก และ ความเห็นใจกันอย่างแท้จริง นับตั้งแต่ครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนรวมตัวกันเพื่อฉลอง ไปจนถึงการมอบของขวัญ และ การช่วยเหลือผู้ที่จำเป็น มันเป็นเวลาที่เราหันมาสังเกตและความรักที่เราได้รับจากครอบครัวและเพื่อนๆ
การมอบของขวัญกันทำให้เรารู้สึกว่าเราสามารถแสดงความรักและความนับถือให้กับผู้อื่นได้ นอกจากนี้ เทศกาลวันคริสต์มาสยังเป็นโอกาสที่ให้เรามีเวลาพักผ่อน และ นั่งที่หน้าเครื่องดื่มร้อนๆ กันอย่างเป็นส่วนตัว เพื่อรับรองถึงความสำคัญของคนที่เรารักและความรักที่เราได้รับ
เทศกาลคริสต์มาสนั้น เป็นเทศกาลสำคัญอย่างมากสำหรับชาวคริสต์ และ ก็เป็นเทศกาลที่มีความหมายลึกซึ้งอีกด้วย และทั้งโลกก็ยังให้ความสนใจกับเทศกาลนี้ไม่ต่างกัน ก็เหมือนกับประเทศไทย ที่ก็ยังมีการจัดกิจกรรมในวันคริสต์มาสเหมือนกัน
ผู้คนล้วนสนุกสนาน ไปกับเทศกาลโดยที่บางส่วนก็ไม่ได้รู้ที่มาที่ไปมากนัก ดังนั้นประวัติคริสต์มาส ที่ได้มานำเสนอในครั้งนี้ ก็คงช่วยให้เพลิดเพลิน และ สนุกสนานไปกับเทศกาลคริสต์มาสนี้ได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย
ติดตามบทความใหม่ๆ…. ความสุข
อัพเดทก่อนใคร… Social Trend
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ : เปลี่ยนแปลงเพื่อคนรัก หรือ ยอมรับกันและกัน?