10 วิธีมองโลกในแง่ดี เปลี่ยนเรื่องเครียดให้เป็นโอกาส คิดบวกประโยชน์รอบตัว ในแง่การบริหารธุรกิจ?
10 วิธีมองโลกในแง่ดี ลดภาวะเครียด แน่นอนว่าความเครียด ถือเป็นเรื่องราวที่สามารถพบได้เกือบทุกวันสำหรับมนุษย์เอย่างรา เช่น ภาวะเครียดที่มาจากการทำงาน เนื่องด้วยผู้คนส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นงานไหนๆ ก็จะต้องทำออกมาให้ดีที่สุดเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
และในบางครั้งการทำงานย่อมมีความเครียดแล่นเข้ามา อีกทั้งในปัจจุบัน โลกของเรามีปัญหาเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ เศรษฐกิจที่ไม่ค่อนดี การเมืองก็ตึงเครียด เราจะต้องหาวิธีคลายเครียดกันบ้าง เพื่อให้ชีวิตของเราไม่ตึงมากจนเกินไป
อาจจะเพราะการทำงานหนัก ติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือ เป็นเพราะไม่สามารถทำงานต่อได้ และ คุณจะทำอย่างไรกับการที่จะขจัดความเครียดนี้ออก หากงานของคุณมีปัญหา ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำคุณ ในการเปลี่ยนความเครียด เป็นโอกาสที่สามารถพาคุณ ไปเจอเรื่องดีๆได้ จะเป็นอย่างไร และมีอะไรบ้าง
1.วิจัยและพัฒนาใหม่
การวิจัยและพัฒนาสินค้า เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต ได้อย่างต่อเนื่อง เพราะหากคุณไม่มีความคิดที่จะพัฒนาสินค้า ก็จะทำให้ธุรกิจนั้นอยู่เพียงจุดเดิม และ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หากเป็นอย่างนั้น จะทำให้ธุรกิจของคุณหยุดนิ่ง และจบลงอย่างแน่นอน ผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตที่ดี ไม่ควรหยุดนิ่ง
ควรหมั่นทำการวิจัย และ พัฒนาสินค้าอยู่เสมอ เพื่อดึงดูดลูกค้า และ ขยายธุรกิจให้เติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณได้พัฒนาตัวเอง มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่จากการลองอะไรใหม่ๆ และแปลกแตกต่างไปจากเดิม ทั้งมีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ และมีประโยชน์ต่อตัวคุณเอง ในการดำเนินงาน
2.ลงทุนน้อย
เป็นการลงทุนน้อย แต่ชาญฉลาด แต่ได้ผลตอบแทนคือกำไรที่มากขึ้น ซึ่งการทำแบบนี้ เป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจที่มีมานานแล้ว เรียกได้ว่าเป็นศิลปะในการทำธุรกิจ อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ และเมื่อหากถึงเวลาที่ต้องมีการแข่งขัน ในการทำธุรกิจ การที่จะต้องเสียกำลังพลน้อย ย่อมดีกว่าเสียไปเยอะ เกินจำเป็นอยู่แล้ว
และในปัจจุบันธุรกิจที่ใช้วิธีการนี้ และได้ผลดีตามคาด คือการทำธุรกิจผ่าน social network เพราะในปัจจุบันโทรศัพท์เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนต้องมีและมีจะปริมาณมากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ตลาดต้นทุนสูง ระบบเดิมๆจะหมดไป และผู้คนจะหันมาให้ความสนใจการทำธุรกิจผ่านตลาดเทคโนโลยีทางโทรศัพท์แทน
3.ทำธุรกิจให้ถูกช่วงเวลา
การทำธุรกิจให้ถูกช่วงเวลา ก็คือการเลือกขายสินค้า หรือ ผลิตสินค้า และ บริการต่างๆในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะหากในช่วงนั้นเกิดเศรษฐกิจตกต่ำ การทำธุรกิจในช่วงนั้นอาจจะไม่ราบรื่นและผ่านไปได้ยาก และนั่นจะส่งผลให้ธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่สะดุด หยุดชะงัดได้ง่ายๆ
วิธีการแก้ไขคือการปรับเปลี่ยน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในตอนนั้น เช่น การผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ ลูกค้ามากที่สุด นั่นคือการผลิตสินค้าที่ประหยัดกระเป๋าลูกค้า มีต้นทุนน้อย และไม่ฟุ่มเฟือย เมื่อเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น อีกครั้งก็สามารถผลิตสินค้าและเดินหน้าธุรกิจที่ทำอยู่ได้
4.สยบความเคลื่อนไหว
การสงบเสงี่ยมไว้ในช่วง ที่สถานการณ์เศรษฐกิจ กำลังวิกฤต เป็นวิธีที่มีมาอย่างยาวนาน และ ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะถ้าหากคุณขยับขยาย ในช่วงสถานดังกล่าวแล้ว อาจจะทำให้ธุรกิจของคุณ เกิดหายนะได้เลย และนั่นจะทำให้มีเรื่องมากมายตามมา
เพราะในช่วงสถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวนี้ คุณไม่สามารถทราบได้เลยว่า หากได้ลองทำอะไรลงไปแล้ว ผลที่จะตามมาจะหนักเบามากแค่ไหน ที่ทำได้คือการกัดฟันอดทน อดกลั้น รอเวลาที่เหมาะสม และเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นข้อที่ห้ามมองข้ามโดยเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรที่จะคิดมากเครียดจนเกินไป ในเรื่องที่เราจะต้องหยุดพักในการขยับขยายกิจการ หรือสิ่งต่างๆในชีวิตเรา ที่อาจจะหยุดชะงักบ้าง ก็ไม่เป็นไร เราอาจจะช้ากว่าคนอื่น แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้หมายความว่า เราจะแซงเค้าไม่ได้ ดังนั้นแล้ว ลองเดินช้าๆดูบ้าง เผื่ออะไรจะดีขึ้น
5.กระชับความสัมพันธ์กับลูกค้า
กลยุทธ์ที่ดีของการค้าขาย คือการกระชับความสัมพันธ์ กับลูกค้าให้ดี และเน้นการบริการที่ดีต่อลูกค้า แม้ในสถานการณ์ที่เกิดเศรษฐกิจย่ำแย่ ลูกค้าอาจจะไม่ได้มาอุดหนุนสินค้าของคุณ แต่หากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นเมื่อไหร่ ลูกค้าจะเลือกคุณมากกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอน แต่แท้จริงแล้วการบริการลูกค้าให้ดีก็คือพื้นฐานในการทำธุรกิจ ควรมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
6.ปรับปรุงคุณภาพสินค้า
การปรับปรุงคุณภาพสินค้า เป็นพื้นฐานสำคัญอย่างมาก ในการทำธุรกิจ คุณควรเปิดรับฟังความคิดเห็น ของลูกค้าที่มาใช้บริการ เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้า ให้ดีขึ้น และ เพื่อผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ ลูกค้ามากที่สุด และ เมื่อเกิดภาวะวิกฤตที่ไม่สามารถทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นได้
ในช่วงเวลานั้น หากหันมาพัฒนาการดำเนินงานต่างๆ และตัวสินค้าให้ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อถึงเวลาที่พร้อมในการเคลื่อนไหวใหม่อีกครั้ง ลูกค้าก็จะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ และ การดำเนินงานที่ติดขัดในอดีต ก็จะดีมากขึ้นหากคุณหันมาพัฒนาในช่วงเวลานนั้นนั่นเอง
7.สะสมกำลังให้พร้อม
การสะสมกำลัง ก็เหมือนกับการสะสมเสบียงไว้ให้พร้อม เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก และอาจจะไม่สามารถคาดคิดได้ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจจะกลับมาย่ำแย่ในตอนไหน หากในเวลานี้คุณรวบรวมกำลังพล กำไรที่สะสมเอาไว้เพื่อใช้ในการพัฒนาสินค้า และ การดำเนินงานต่างๆให้ดีขึ้นในขณะที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด การกลับมาอีกครั้ง ของธุรกิจของคุณจะดีมากยิ่งขึ้น อย่างแน่นอน
8.หาจุดซื้อ
ควรหาจุดซื้อ ไม่ใช่หาจุดขาย โดยปกติแล้วส่วนใหญ่จะหาจุดขายในการขายสินค้า และ บริการต่างๆมากกว่าการหาจุดซื้อ และ ในบางครั้งอาจจะไม่ตรงโจทย์ ความคิดของลูกค้าก็เป็นได้ เพราะคุณได้หาจุดขาย จากตัวผู้ผลิตไม่ใช่ผู้บริโภค หากเลือกจุดซื้อ โดยการจำลองเป็นผู้ซื้อ ที่ถ้าหากคุณเป็นผู้ซื้อคุณ จะเลือกซื้อสินค้าจากที่ไหน หรือจุดไหนที่คุณจะผ่านไปมากที่สุด และ สามารถมองเห็นการขายสินค้าได้ดีที่สุด
9.เตรียมตัวรับมือกับทุกสถานการณ์
กลยุทธ์นี้ คือการรวบรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน คือการเตรียมตัวรับมือกับทุกสถานการณ์ ที่จะเข้ามา โดยมีวิธีหลากหลายตามความคิดของคุณ ทั้งการดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า การพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และการปรับปรุงดูแลสินค้า เพื่อให้สินค้าออกมาอย่างมีคุณภาพมากที่สุด และสิ่งสำคัญเลยคือการรับฟังความคิดเห็นต่างๆเพื่อนำมาปรับใช้ให้ดีขึ้น และเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด อย่างเช่น สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำแล้ว คุณจะมีความพร้อมมากขึ้น
10.ยึดมั่นในแนวทางของตนเอง
อย่าให้เสียงคนอื่น ดังกว่าเสียงในใจคุณ สุดท้ายแล้วคือการอย่าฟังเสียงคนอื่น มากกว่าเสียงในใจ และ การตัดสินใจของคุณ เพราะในบางครั้ง คำพูดที่ติเตียน หรือ คอยขัดขวางการทำงาน และ การธุรกิจของคุณอาจจะทำให้สูญเสียโอกาส ที่สำคัญในการคว้าอะไรบางอย่างก็ได้ แม้จะเป็นคำพูด ที่มีความเป็นห่วงก็ตาม
การทำธุรกิจ ควรมาด้วยหลักเหตุและผล การตัดสินใจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่คุณนั้นต้องเลือกเอง แต่ระวังเอาไว้ แม้จะเป็นการตัดสินใจ และ ความคิดของคุณ หากกระทำด้วยความ “บ้าบิ่น” อาจจะทำให้ได้รับผลลัพธ์ ที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก ดังนั้นควรคิดก่อนที่จะตัดสินใจ อย่าลงมือทำธุรกิจ โดยไม่คิดหน้าคิดหลัง แล้วอาจจะไม่มี ความสุข
สรุป
ใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อชื่นชมสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ สิ่งนี้สามารถช่วยเปลี่ยนความสนใจของคุณไปยังด้านบวกของชีวิตของคุณได้ ล้อมรอบตัวเองด้วยผู้คนที่คิดบวก หนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจ เพลงที่ยกระดับจิตใจ และคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจ วิธีนี้จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกที่สนับสนุนกรอบความคิดในแง่ดีของคุณ
เมื่อมีความคิดเชิงลบเกิดขึ้น ให้ท้าทายพวกเขาโดยถามตัวเองว่ามีหลักฐานใดที่จะสนับสนุนความคิดเหล่านั้นหรือไม่ แทนที่ความคิดเชิงลบด้วยการยืนยันเชิงบวกหรือมุมมองที่สมจริง ตั้งเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ซึ่งสอดคล้องกับความหลงใหลและค่านิยมของคุณ การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและการมองโลกในแง่ดีของคุณได้
ดูแลความเป็นอยู่ที่ดีทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ทำให้คุณมีความสุข แทนที่จะจมอยู่กับปัญหา ให้มุ่งเน้นไปที่การค้นหาวิธีแก้ปัญหา แนวทางเชิงรุกนี้สามารถช่วยให้คุณรักษาทัศนคติเชิงบวกได้
สรุปแล้ววิธีการเปลี่ยนความเครียด ให้เป็นโอกาส ในการกู้คืนธุรกิจ ที่กำลังย่ำแย่นั้น ก็คือการพัฒนาอยู่เสมอ ธุรกิจที่กำลังย่ำแย่ย่อมได้รับการแก้ไข หากคุณไม่อยากจะเสียเวลา อย่างเปล่าประโยชน์ในระหว่างนี้ สามารถนำวิธีการที่ได้แนะนำ ไปลองปรับใช้ตามความคิดของคุณ เพื่อช่วยกู้คืนความเครียด ที่สะสมจากการทำธุรกิจ
ติดตามบทความใหม่ๆ…. ความสุข
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ… 15 ข้อคิดดีๆ แนวคิดใช้ชีวิตยังไง ให้มีความสุข ในช่วงยากลำบาก