15 ข้อคิดดีๆ แม้ยากลำบาก บางครั้งแค่เปลี่ยนมุมมอง ก็อาจทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
Kwaamsuk ขอแบ่งปัน 15 ข้อคิดดีๆ แนวคิดใช้ชีวิตยังไง ให้มีความสุข ในสถานการณ์ที่อะไรๆ ก็ดูจะยากลำบากไปหมด การปรับเปลี่ยนทัศนคติเล็กน้อย อาจเป็นส่วนเล็กๆ ที่จะช่วยให้คุณมีแรงผลักดันมากขึ้น แต่ทุกๆ ข้อคิดย่อมีสองมุมเสมอ ความยืดหยุ่นคือสิ่งสำคัญที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญปัญหา
การใช้ชีวิตในแต่ละวันของทุกคน ก็อาจจะมีดี และไม่ดีบ้างตามวันเวลา และหากในตอนนั้นเรารู้สึกแย่ เราควรทำอย่างไรดี คราวนี้จึงอยากมาแนะนำ ข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต เพื่อบรรเทาความยากลำบากและเตือนใจให้มีความสุขขึ้นได้บ้าง แม้เล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะทำให้คุณเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตได้บ้าง
1.ถ้าไม่ยอมปล่อยมือจากอดีต แล้วเมื่อไหร่จะคว้าอนาคตได้
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ การที่เรายังจมอยู่กับอดีตไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องราวที่แสนเจ็บปวดแค่ไหน และระยะเวลาที่เกิดขึ้นจะผ่านมานานแล้วหรือเพิ่งผ่านมาไม่นาน เราก็ควรที่จะพยายามปล่อยมือมาจากเรื่องราวที่ทำให้เราต้องจมกับความทุกข์และส่งผลทำให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างลำบาก แน่นอนว่าไม่ควรรีบร้อน ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการกดดันตัวเอง ค่อยๆเดินออกมา ปล่อยมือจากความเจ็บปวดทีละเล็กน้อย เพื่ออนาคตข้างหน้าของเรา อนาคตแสนสดใสและมีแต่ความสุขรอคอยเราอยู่แน่นอน
2.อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ อย่าแคร์สายตาใคร ถ้าเรายังหายใจด้วยจมูกของเราเอง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ต้องการที่จะบอกกล่าวว่าการเริ่มต้นใหม่ไม่ได้น่ากลัวเสมอไป ถ้าหากเราไม่มั่นใจก็อย่าไปสนใจสายตาของคนอื่น แคร์แค่ตัวของเราเองก็พอ เพราะชีวิตของเราเติบโตมาอย่างดีขนาดนี้ก็เพราะตัวเราเอง เราสามารถหายใจได้ด้วยจมูกของเรา แสดงว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ก็เพราะตัวเราเอง ไม่ใช่คนอื่นแต่อย่างใด ยิ้มเข้าไว้ เปิดรับผู้คนใหม่ๆ มีความสุขกับการเริ่มต้นใหม่ของตัวเองดีกว่าจมปลักกับสายตาและคำพูดของคนอื่น
3.ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ทำสิ่งที่อยากทำ ไม่ใช่ทำสิ่งที่คนอื่นต้องการให้ทำ
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ เราควรทำในสิ่งที่เราต้องการทำและชื่นชอบ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งเล็กน้อยหรือจะเป็นสิ่งใหญ่ เพราะตัวเราเป็นคนเลือกเอง ไม่ใช่ใครอื่น เพราะเราจะมีความสุขมากกว่าหากได้ทำในสิ่งที่ถนัดหรือชื่นชอบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็มาจากตัวของเราเองทั้งนั้น ไม่สำเร็จก็เริ่มใหม่
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เราชื่นชอบ สามารถทำได้โดยไม่มีวันเบื่อ ถ้าหากเราไม่ทำในสิ่งที่คนอื่นต้องการมันจะกลายเป็นตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง ทั้งความกดดัน ความคาดหวังต่างๆ ทำให้การชีวิตของเราแย่ลงเรื่อยๆ ดังนั้นทำในสิ่งที่ชอบ ตัวเรารู้อยู่แล้วว่าสิ่งไหนผิดหรือถูก
4.หากตัดสินใจเดินมาข้างหน้าแล้ว อย่ากลับไปมองด้านหลัง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ถ้าตัวเราตัดสินใจที่จะเดินมาข้างหน้า เดินออกมาจากความเจ็บปวด ทรมานต่างๆแล้ว ได้โปรดอย่าหันหลังกลับไปอีก เพราะถ้าเราหันกลับไป แทนที่เราจะได้เดินหน้าต่อและใช้ชีวิตใหม่อย่างมีความสุข ตัวเราก็จะจมกับความทุกข์ตามเดิม
ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การเดินออกมาข้างหน้าเป็นเรื่องยากพอๆกับการเดินไปให้ไกลจากเดิม เพราะอดีตด้านหลังของเราคอยฉุดดึงรั้นตัวเราไว้อยู่ ดังนั้นเป็นไปได้ ถ้าเราตัดสินใจเดินมาข้างหน้าแล้วพยายามก้าวขาต่อไป และท่องไว้ว่าตัวเราจะดีขึ้นกว่าเดิม
5.อย่ามัวแต่โทษดวงชะตา หากเรายังไม่พยายามหาโอกาสของเราเอง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ โอกาสของเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามล้วนมาจากความพยายามของเราทั้งนั้น ถ้าหากเราไม่คิดที่จะเริ่มพยายามก็อย่าไปโทษดวงชะตา ที่ทำให้ตัวเราต้องพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เริ่มต้นพยายามที่จะทำก่อน ล้มแล้วลุกขึ้นใหม่ พยายามหาโอกาสของตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะดวงชะตาของเราก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
6.ความสุขที่สุดของคนเราก็คือการไม่เป็นหนี้สินใคร
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ความสุขที่สุดในชีวิตคือการไม่เป็นหนี้สินใคร ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือค่าตอบแทนต่างๆ เราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ด้วยความสบายใจ ทำงานและเที่ยวอย่างมีความสุขโดยที่ไม่ต้องมีเรื่องหนี้สินมาให้ปวดหัว ได้ดูแลครอบครัวและคนที่เรารักอย่างมีความสุข ดังนั้นควรใช้ชีวิตโดยที่ไม่เป็นหนี้สินใครถือเป็นความสุขที่สุดแล้ว
7.ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เลือกไปมันถูกหรือผิด ดังนั้นควรมั่นใจกับสิ่งที่เลือก จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ สิ่งที่เราเลือกจะทำหรือคิด ไม่มีใครสามารถบอกได้หรอกว่าสิ่งที่เราเลือกถูกหรือผิด นอกจากตัวของเราเองหรือผลที่ตามมาจากสิ่งที่เราเลือก เลือกทำในสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราถนัด มั่นใจโดยไม่ต้องบฟังคำพูดของใคร และนั่นจะได้ไม่ต้องทำให้เราต้องมาเสียใจทีหลังหากเราไม่ได้เลือกในสิ่งที่คิดเอาไว้ ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผิดเราก็แค่แก้ไขให้มันถูกต้องเท่านั้น
8.การเกียจคร้านทำให้เราพลาดโอกาสดีๆไปหลายอย่าง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ความขี้เกียจของเราที่หลายๆคนย่อมมีอยู่แล้วเป็นปกติ แต่ความขี้เกียจนั้นเองก็ถือเป็นผลเสียที่ทำให้เราพลาดโอกาสดีๆไปมากมายเหมือนกัน และโอกาสดีๆก็คงไม่ได้มาทุกครั้งแน่นอน ดังนั้นพยายามเพิ่มความขยันให้มากขึ้นกว่าความขี้เกียจ เพื่อโอกาสดีๆของตัวเราเอง
9.สิ่งที่เรียกว่า อิสระ คือการมีชีวิตอยู่ด้วยความเป็นตัวเราเอง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ อิสระของเราไม่ว่าจะเป็นทางความคิดหรือการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของใคร ถือเป็นการที่เราได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเราเองอย่างแท้จริง และนั่นก็คือความสุขของเรา อิสระที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบอย่างเต็ม อิสระที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามที่ต้องการ นั่นก็ถือเป็นการใช้ชีวิตที่ใครหลายคนต้องการที่จะทำแน่นอน
10.โอกาสจะเป็น “ศูนย์” ก็ต่อเมื่อเรา ยอมแพ้
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ โอกาสของเราที่พยายามมานั้นจะไม่มีค่าเลย หากเรานั้นยอมแพ้มันไป ถ้าเราล้มเราก็แค่ลุกขึ้นมาอีกครั้ง พยายามทำต่อไปซ้ำๆเพื่อผลสำเร็จที่รออยู่ ในระหว่างนั้นก็จะเป็นการเรียนรู้ของเราไปในตัวได้ด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่ต้องการให้โอกาสที่พยายามมาไม่มีค่า ก็แค่อย่ายอมแพ้ สู้ต่อไปเพื่อความสำเร็จและความสุขที่จะตามมา
11.ไม่ว่าเราจะพบเจอกับอะไรก็ตาม แต่เราสามารถ เลือกได้ ว่าจะมองมันเป็นอย่างไร
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ สิ่งที่เราต้องประสบพบเจอนั้นไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร ออกมาแบบไหน เราก็สามารถเลือกที่จะมองมันได้ว่าเป็นอย่างไร อะไรที่ควรทำต่อไป มองให้ออก มองดีๆว่าเราทำอะไรได้บ้างในสถานการณ์นั้นๆ แล้วตัวเราควรเลือกทางไหนล่ะ ทางไหนที่จะทำให้ตัวเรารู้สึกว่ามันเหมาะสมและสมควรที่สุดแล้ว ตัวเลือกไหนที่จะทำให้ตัวเรามีความสุข
12.สิ่งหนึ่งที่ควรฟังและใส่ใจมากที่สุดคือ เสียงหัวใจของเรา
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ เราควรที่จะทำตามเสียงหัวใจเรียกร้อง อย่าหลอกตัวเองด้วยความคิดที่เกิดจากสมอง แต่ทำตามการเรียกร้องของหัวใจจะดีกว่า เพราะนั้นคือความรู้สึกที่แท้จริงของเราเอง เราสามารถผ่านสถานการณ์แย่ๆมาได้หากใจของเราพร้อมที่จะพาก้าวไปข้างหน้า อย่าบังคับตัวเองด้วยความคิด ค่อยๆเป็นค่อยๆไป เพื่อวันที่ดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
13.ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมากมาย แต่ควรมีเพื่อนสักคนที่รักเราที่เป็นตัวเราเอง
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ การที่เรามีเพื่อนสักคนที่เข้าใจเราและรักเราที่เป็นตัวของเราเอง ยังดีกว่ามีเพื่อนหลายสิบคนแต่พวกเขาล้วนหาผลประโยชน์จากตัวเราและไม่เคยเข้าใจเรา ไม่ได้รักเราที่ตัวของเราเลยแม้แต่น้อย เพราะนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะเกิดผลเสียต่อจิตใจเราได้ เพื่อนสักคนที่คอยเป็นเซฟโซนดีๆให้ตัวเรา ถือเป็นของขวัญล้ำค่าอย่างมาก
14.เรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเอง ไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อใคร
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ชีวิตของเรามีเพื่อตัวของเราเอง เราใช้ชีวิตก็เพื่อตัวของเราเอง เราเลือกสิ่งที่ชอบ กินของอร่อย และนอนในห้องที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ตัวเรานั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อมาเป็นทาสของใคร ทำตามที่ตัวเองคิดว่าดีและใช้ชีวิตให้มีความสุข ได้โปรดอย่าใช้ชีวิตอยู่ใต้อำนาจของใคร เพราะตัวเรานั้นไม่ได้เกิดเพื่อมาให้คนอื่นกดขี่ข่มเหง
15.ความเจ็บปวดมักลืมได้ยาก แต่ความทรงจำดีๆจะอยู่เตือนเราตลอดไป
จากข้อคิดที่ว่ามานั้น คือ ความเจ็บปวดจากเรื่องราวต่างๆที่เราได้พบเจอมา เป็นแผลในใจที่ทำให้เราไม่สามารถลืมได้ และทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไม่ได้เมื่อเรานึกถึงภาพความเจ็บปวดนั้น แต่ถ้าหากเรานึกถึงความทรงจำดีๆ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ก็ถือเป็นส่วนที่เตือนเราว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีความสุขและยิ้มได้แบบนั้นเลยนะ ทำไมตัวเราถึงยิ้มและมีความสุขแบบนั้นไม่ได้อีกแล้วล่ะ ทั้งๆที่เป็นตัวเราเองแท้ๆ อย่ามัวจมกับความเจ็บปวดอยู่เลย จงมีความสุขกับชีวิตของเราเถอะนะ
จริงๆ แล้วความสุขของเราสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการที่ได้กินของอร่อย นอนเต็มอิ่ม หรือดูหนังที่ชอบ การกระทำเล็กๆน้อยหรือกิจวัตรประจำวันของเราก็มีส่วนช่วยอย่างมากในการผ่านความยากลำบากได้เหมือนกัน ทุกความสุขและรอยยิ้มสดใสล้วนมากจากสิ่งที่ชอบทั้งนั้น
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวแบบไหน คุณสามารถผ่านมันไปได้แน่นอน ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อนาคตอันสดใสรอคุณอยู่ และขอให้ข้อคิดที่ได้มานำเสนอในครั้งนี้ช่วยฟื้นฟูจิตใจของคุณไม่มากก็น้อย
ติดตามบทความใหม่ๆ…. ความสุข
ความสุขของคุณคืออะไร?… Kwaamsuk